VAR เผยความผิดพลาด "น่าประหลาดใจ" ในเกมลิเวอร์พูลถล่มแมนฯ ยูไนเต็ด
วิจารณ์การตัดสินใจที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ลิเวอร์พูลเอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไปอย่างขาดลอย 3-0 ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ดในศึกพรีเมียร์ลีกเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เกมนี้ไม่เพียงแค่เป็นเรื่องของความสำเร็จของหงส์แดงเท่านั้น แต่ยังมีความขัดแย้งเกิดขึ้นเกี่ยวกับการตัดสินใจของ VAR ที่ทำให้หลายคนรู้สึกผิดหวังและสงสัยในกระบวนการตัดสินใจในสนาม
รายละเอียดการแข่งขันและเหตุการณ์ที่เป็นปัญหา
ในเกมนี้ ลิเวอร์พูล ภายใต้การคุมทีมของอาร์เน่ สล็อต ผู้จัดการทีมคนใหม่ของหงส์แดง สามารถเก็บชัยชนะได้อย่างยอดเยี่ยม โดยมีหลุยส์ ดิอาซ ที่ทำสองประตู และโมฮัมเหม็ด ซาลาห์ ที่ปิดฉากด้วยประตูที่สาม การทำประตูที่แม่นยำของลิเวอร์พูลทำให้เอริก เทน ฮาก ผู้จัดการทีมแมนฯ ยูไนเต็ด ต้องกลับมาอยู่ภายใต้แรงกดดันอีกครั้ง หลังจากที่พวกเขายังไม่สามารถหาฟอร์มการเล่นที่ดีได้
แม้ผลการแข่งขันจะเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้สำหรับลิเวอร์พูล แต่มีเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในครึ่งหลังที่ทำให้หลายคนตั้งคำถามถึงการทำงานของ VAR นูสแซร์ มาซราอุย นักเตะใหม่ของแมนฯ ยูไนเต็ด ถูกกล่าวหาว่าได้ทำฟาวล์โคดี้ กัคโป ในเขตโทษ แต่แอนโธนี่ เทย์เลอร์ ผู้ตัดสินเกมนี้กลับให้ประโยชน์กับดาร์วิน นูเนซ ที่ยิงบอลออกข้างไป
ภาพรีเพลย์ที่ชัดเจนแสดงให้เห็นว่ามีการสกัดที่เกิดขึ้นในเขตโทษ แต่ VAR ซึ่งนำโดยจอห์น บรู๊คส์ และผู้ช่วยแฮร์รี เลนนาร์ด กลับไม่ได้ทำการตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าว นีล เมลเลอร์ อดีตกองหน้าของลิเวอร์พูลวิจารณ์การตัดสินใจนี้ว่าเป็น "การตัดสินที่น่าสับสน" โดยเขาแสดงความเห็นว่า VAR ควรจะเข้ามาตัดสินให้เป็นจุดโทษเนื่องจากการเข้าสกัดเกิดขึ้นในกรอบเขตโทษ
เมลเลอร์ใช้โซเชียลมีเดียในการแสดงความคิดเห็น โดยทวีตภาพสองภาพเพื่อสนับสนุนความเห็นของเขา พร้อมเขียนว่า “ผู้ตัดสินเห็นว่ากัคโปถูกทำฟาวล์และชี้ว่าได้เปรียบ... นูเนซยิงออกข้าง แต่การปะทะกันเกิดขึ้นในกรอบเขตโทษ... แล้วทำไม VAR จึงไม่บอกเขาว่าเขาพูดถูก และควรเป็นจุดโทษ?”
การตัดสินใจของ VAR ที่ไม่ทำการตรวจสอบเหตุการณ์นี้ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือและความแม่นยำของกระบวนการตัดสินใจของ VAR ในพรีเมียร์ลีก ในขณะที่เทคโนโลยี VAR ถูกนำมาใช้เพื่อเพิ่มความยุติธรรมในการแข่งขัน การที่ VAR ล้มเหลวในการตรวจสอบเหตุการณ์สำคัญนี้ทำให้เกิดความผิดหวังในหมู่แฟนบอลและนักวิเคราะห์หลายคน
แม้ว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะไม่ได้เปลี่ยนผลการแข่งขันที่แมนฯ ยูไนเต็ดพ่ายแพ้อย่างยับเยิน แต่ก็ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับความสม่ำเสมอและมาตรฐานของการตัดสินในพรีเมียร์ลีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเกมที่มีความสำคัญเช่นนี้
ผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของ VAR และพรีเมียร์ลีก
การที่ VAR ไม่สามารถเข้ามาตัดสินใจในเหตุการณ์ที่เห็นได้ชัดเช่นนี้อาจทำให้ผู้ชมและผู้ติดตามกีฬาฟุตบอลทั่วโลกเกิดความไม่มั่นใจในระบบ VAR และการตัดสินของผู้ตัดสินในพรีเมียร์ลีก ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจให้จุดโทษหรือไม่ ความไม่แน่นอนเช่นนี้ส่งผลให้ความน่าเชื่อถือของพรีเมียร์ลีกลดลง
การตัดสินใจที่ผิดพลาดเช่นนี้ยังสะท้อนถึงความท้าทายที่ผู้ตัดสินและ VAR ต้องเผชิญในการตัดสินใจที่ถูกต้องในเกมที่เต็มไปด้วยความกดดันและความคาดหวังที่สูงจากทั้งผู้เล่น ผู้จัดการทีม และแฟนบอล ทั่วโลก แม้ว่า VAR จะเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการช่วยลดข้อผิดพลาดในการตัดสิน แต่การใช้งานที่ไม่ถูกต้องหรือไม่สม่ำเสมอก็อาจทำให้เกิดความสับสนและความไม่พอใจได้
แม้ว่าลิเวอร์พูลจะชนะการแข่งขันอย่างชัดเจน แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นว่าการตัดสินใจของผู้ตัดสินและ VAR ยังมีช่องว่างที่ต้องปรับปรุง การทบทวนและปรับปรุงกระบวนการใช้ VAR เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้การแข่งขันฟุตบอลมีความยุติธรรมและน่าเชื่อถือมากขึ้น
หากพรีเมียร์ลีกต้องการรักษาภาพลักษณ์ที่ดีและความเชื่อมั่นจากแฟนบอล การให้ความสำคัญกับการพัฒนาความสามารถของผู้ตัดสินและการใช้งานเทคโนโลยี VAR อย่างถูกต้องและสม่ำเสมอเป็นสิ่งที่ไม่สามารถละเลยได้ การเรียนรู้จากความผิดพลาดในเกมนี้จะเป็นก้าวสำคัญในการปรับปรุงมาตรฐานและความยุติธรรมในการแข่งขันฟุตบอลระดับสูงสุดต่อไป