การเซ็นสัญญาที่น่าตื่นเต้นที่สุดของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในฤดูกาลนี้ อาจยังไม่ได้มาถึงเลยก็ได้

การเซ็นสัญญาที่น่าตื่นเต้นที่สุดของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในฤดูกาลนี้ อาจยังไม่ได้มาถึงเลยก็ได้

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ใช้เงินจำนวนมากในการซื้อนักเตะตลอดฤดูกาล 2024/25 โดยมีแผนสำหรับทั้งระยะสั้นและระยะยาว

 

ความพ่ายแพ้ 1-0 ต่อท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ในวันอาทิตย์ที่สนามท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ สเตเดี้ยม เป็นความพ่ายแพ้นัดที่ 12 ของยูไนเต็ดในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ทำให้พวกเขาร่วงไปอยู่อันดับที่ 15 ของตาราง แพ้ถึง 8 จาก 12 นัดล่าสุดในลีก จนกระทั่งเริ่มมีการพูดถึงความเป็นไปได้ของการตกชั้นอีกครั้ง

 

แม้ยูไนเต็ดจะยังนำโซนตกชั้นอยู่ 12 คะแนน ซึ่งต้องเกิดสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันอย่างมากเพื่อให้พวกเขาตกลงไป แต่การที่เรื่องนี้ถูกพูดถึง แสดงให้เห็นถึงปัญหาของสโมสรที่ย่ำแย่ลงเรื่อย ๆ

 

แม้ว่าการตกชั้นอาจไม่ใช่สิ่งที่เป็นไปได้มากนัก แต่ยูไนเต็ดกำลังเผชิญกับโอกาสที่จะทำผลงานแย่ที่สุดในยุคพรีเมียร์ลีกของพวกเขา ฤดูกาลที่แล้วจบที่อันดับ 8 ก็ถือว่าเป็นผลงานที่ถูกวิจารณ์อย่างหนัก และดูเหมือนว่าฤดูกาลนี้จะสร้างกระแสข่าวด้านลบมากยิ่งขึ้น

 

ยูไนเต็ดใช้เงินไปมากกว่า 200 ล้านปอนด์กับนักเตะใหม่ 6 ราย นับตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ทำให้เกิดคำถามว่า สโมสรที่ลงทุนไปขนาดนี้ ทำไมถึงกลับมีผลงานที่แย่ลง

 

พวกเขาดึงนักเตะใหม่ 5 คนในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา เพื่อตอบสนองความต้องการของอดีตกุนซือ เอริก เทน ฮาก ก่อนที่เขาจะถูกปลดในช่วงปลายเดือนตุลาคม จากนั้น รูเบน อาโมริม ถูกแต่งตั้งเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ และเริ่มเปลี่ยนแนวทางของทีมด้วยการใช้ระบบ 3-4-2-1 อันเป็นเอกลักษณ์ของเขา

 

อย่างไรก็ตาม ระบบของอาโมริมถูกตั้งคำถามในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากยูไนเต็ดมีฟอร์มที่ย่ำแย่ ระบบของเขาต้องพึ่งพาวิงแบ็กทั้งสองข้างเป็นอย่างมาก เพื่อช่วยสร้างความกว้างให้กับเกม ซึ่งเป็นตำแหน่งที่สำคัญที่สุดในทีม

 

ยูไนเต็ดตระหนักถึงปัญหานี้และเซ็นสัญญากับ แพทริก ดอร์กู วิงแบ็กจากเลชเช่ ในช่วงตลาดเดือนมกราคม เพื่อแก้ไขปัญหาทางฝั่งซ้ายของทีม พวกเขาขาดนักเตะถนัดเท้าซ้ายตามธรรมชาติในตำแหน่งนี้มานานแล้ว ทำให้การเสริมทัพในจุดนี้เป็นสิ่งสำคัญ

 

ดอร์กู ที่ถูกซื้อมาในราคาเริ่มต้น 25 ล้านปอนด์ ถือเป็นชิ้นแรกของจิ๊กซอว์ที่อาโมริมต้องการ แต่ยังคงต้องมีการเสริมทัพอีกหลายตำแหน่ง เพื่อให้แผนการของเขาเกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์

 

ดังนั้น ตลาดนักเตะช่วงซัมเมอร์นี้จึงอาจเป็นหนึ่งในตลาดซื้อขายที่สำคัญที่สุดของยูไนเต็ดในรอบหลายปี พวกเขาจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ทั้งในแง่ของการซื้อและขายนักเตะ

 

ตำแหน่งที่ต้องเสริมแกร่งมากที่สุด คือ กองหน้าตัวเป้า เนื่องจากปัญหาการทำประตูยังคงเป็นจุดอ่อนที่ใหญ่ที่สุดของทีม ยูไนเต็ดไม่ได้เซ็นสัญญากับกองหน้าในเดือนมกราคม เพราะพวกเขาต้องการเก็บงบประมาณไว้ใช้สำหรับตลาดซัมเมอร์ก่อนเริ่มฤดูกาล 2025/26

 

ยูไนเต็ดได้ปิดดีลล่วงหน้าสำหรับฤดูกาลหน้าแล้ว โดยพวกเขาบรรลุข้อตกลงมูลค่า 3.3 ล้านปอนด์ กับสโมสร เซร์โร่ ปอร์เตโญ่ ในปารากวัย สำหรับการคว้าตัว ดีเอโก้ ลีออน กองหลังถนัดเท้าซ้าย วัย 17 ปี เขาเดินทางมาเยือน โอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อเดือนที่แล้วเพื่อปิดดีล และจะเข้าร่วมทีมอย่างเป็นทางการในช่วงซัมเมอร์นี้

 

การค้นหาและดึงตัวนักเตะดาวรุ่งตั้งแต่เนิ่น ๆ เป็นหนึ่งในจุดแข็งของ Ineos นับตั้งแต่พวกเขาเข้ามาถือหุ้นส่วนน้อยในสโมสรเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ยูไนเต็ดคว้าตัวดาวรุ่งหลายราย เช่น ชิโด โอบี และ เซกู โคเน่

 

เช่นเดียวกับ โอบี ที่ได้ประเดิมสนามกับทีมชุดใหญ่ในเกมพบกับท็อตแนม และโคเน่ ยูไนเต็ดเชื่อว่า ลีออน เป็นนักเตะที่มีศักยภาพพอที่จะก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ได้

 

แม้เขาจะอายุเพียง 17 ปี แต่ลงเล่นให้กับ เซร์โร่ ปอร์เตโญ่ ไปแล้ว 19 นัด และติดทีมชาติปารากวัยรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี ล่าสุดเขายิงประตูชัยช่วยให้ปารากวัยเอาชนะอาร์เจนตินา 3-2 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นประตูแรกของเขากับทีมชาติในระดับเยาวชน

 

แน่นอนว่าไม่มีใครสามารถคาดเดาได้ว่า ลีออน จะมีเส้นทางอาชีพที่ยิ่งใหญ่แค่ไหนกับยูไนเต็ด แต่สโมสรเลือกที่จะปิดดีลล่วงหน้าด้วยสัญญาแบบพรีคอนแทรค ยูไนเต็ดให้ความสำคัญกับการพัฒนานักเตะเยาวชน และพวกเขาเชื่อมั่นว่า ลีออน อาจกลายเป็นผู้เล่นตัวหลักของทีมในอนาคต

 

เจ้าหนูรายนี้เป็นแบ็กซ้ายตามธรรมชาติ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เป็นปัญหาของยูไนเต็ดมานาน หวังว่าเขาจะสามารถเข้ามาเป็นตัวเลือกระยะยาวเคียงข้าง ดอร์กู ได้

 

ด้วยค่าตัวเริ่มต้นเพียง 3.3 ล้านปอนด์ ยูไนเต็ดมีสิทธิ์ที่จะลองเสี่ยงกับเขา ซึ่งอาจกลายเป็นหนึ่งในดีลที่ฉลาดและคุ้มค่ามากที่สุดในอนาคต

ท็อปเพล์เยอร์เจลีค

การแข่งที่น่าสนใจ