มิเกล อาร์เตต้า ยอมรับว่าการบริหารทีมอาร์เซนอลของเขาได้รับแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมการชนะของทีมออลแบล็กส์ (ทีมรักบี้นิวซีแลนด์)
มิเกล อาร์เตต้า ยอมรับว่า สก็อตต์ โรเบิร์ตสัน หัวหน้าโค้ชรักบี้ทีมชาตินิวซีแลนด์เป็น "แรงบันดาลใจ" สำหรับเขา และอาร์เซนอลได้เรียนรู้บางแง่มุมจากวัฒนธรรมของทีมออลแบล็กส์ อาร์เตต้าเปิดเผยว่า ความสนใจของเขาในรักบี้นิวซีแลนด์ทำให้เขาอ่านหนังสือ Legacy ซึ่งกล่าวถึงทีมออลแบล็กส์ ส่วนนิวซีแลนด์ที่มาเยี่ยมสนามฝึกซ้อมของอาร์เซนอลในสัปดาห์นี้จะพบกับทีมชาติอังกฤษที่ Allianz Stadium ในวันเสาร์
อาร์เตต้ายกย่องสก็อตต์ โรเบิร์ตสันว่าเป็น "แรงบันดาลใจ" และยอมรับว่าอาร์เซนอลได้เรียนรู้จากวัฒนธรรมของทีมออลแบล็กส์ ซึ่งในการเตรียมตัวก่อนเกม Autumn Nations Test ทีมออลแบล็กส์ได้เข้าเยี่ยมสนามฝึกซ้อมของอาร์เซนอล โดยได้พบกับกัปตันทีมทั้งชายและหญิงของอาร์เซนอล ได้แก่ มาร์ติน โอเดการ์ด และคิม ลิตเติล ขณะที่ทีมชุดใหญ่ของอาร์เตต้าเดินทางไปแข่งขันคาราบาวคัพรอบสี่กับเพรสตัน
อาร์เตต้า ซึ่งจะนำทีมพบกับนิวคาสเซิ่ลในวันเสาร์นี้ เผยว่าเขาได้รับแรงบันดาลใจจากโรเบิร์ตสัน และพยายามนำแนวคิดบางอย่างจากการทำงานของทีมออลแบล็กส์มาปรับใช้ที่อาร์เซนอล
"ผมมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเรเซอร์ โค้ชของพวกเขา" อาร์เตต้ากล่าว “เขาเป็นแรงบันดาลใจ เป็นคนที่มีบุคลิกน่าทึ่งมาก”
“น่าเสียดายที่วันที่เราต้องออกเดินทางไปแข่งกับเพรสตัน พวกเขามาพอดี เราพยายามจะจัดให้เวลาต่างกัน แต่มันทำได้ยาก แต่ผมรู้จักพวกเขาดีทีเดียว”
ความสนใจของอาร์เตต้าในรักบี้นิวซีแลนด์ทำให้เขาอ่านหนังสือ Legacy ซึ่งสำรวจหลักการเป็นผู้นำที่ทำให้นิวซีแลนด์เป็นหนึ่งในทีมกีฬาที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์
“ผมแนะนำให้ทุกคนอ่านเลย” อาร์เตต้ากล่าวต่อ “หนังสือพูดถึงพวกเขา วัฒนธรรมของพวกเขา และจิตวิญญาณแห่งการชนะ วิธีที่พวกเขามองกีฬา ชีวิต และความสัมพันธ์ น่าทึ่งมากจริงๆ”
“จากนั้นผมก็ได้มีโอกาสพบกับ [โรเบิร์ตสัน] และเราก็ได้อยู่ในกลุ่มเดียวกัน มันเป็นเรื่องที่ดีมาก”
เมื่อถูกถามถึงสิ่งที่เขาได้เรียนรู้จากวัฒนธรรมของทีมออลแบล็กส์และนำมาปรับใช้ที่อาร์เซนอล อาร์เตต้ากล่าวว่า “โดยเฉพาะเรื่องของวัฒนธรรมและความสำคัญของความชัดเจน หรือความหมายที่อยู่ในเสื้อตัวนั้นเมื่อคุณสวมใส่มัน"
“ความรู้สึกที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่ยิ่งใหญ่ เมื่อมีใครเล่นด้วยความรู้สึกนี้ ผมคิดว่ามันจะช่วยยกระดับความทุ่มเท เพิ่มศักยภาพในการแสดงผลงาน และสร้างผลกระทบต่อองค์กรในวิธีที่ต่างออกไป”