รูเบน อาโมริม กับภารกิจคืนชีพแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ท้าทายเงาของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
รายงานข่าวระบุว่า รูเบน อโมริม ได้บอกกับบรรดานักเตะของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ว่าเหตุใดบรรดาผู้สืบทอดตำแหน่งของเขาจึงไม่สามารถประสบความสำเร็จได้เทียบเท่ากับเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ในขณะที่เขากำลังพยายามพลิกสถานการณ์กลับมา
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา อโมริมได้เข้ามารับหน้าที่ในการฝึกซ้อมครั้งแรกในฐานะหัวหน้าโค้ชคนใหม่ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยโค้ชวัย 39 ปีคือคนล่าสุดที่ได้รับมอบหมายให้นำสโมสรไปสู่ความสำเร็จ
เขาจะกลายเป็นผู้จัดการทีมถาวรคนที่ 6 ต่อจากเฟอร์กูสัน ต่อจากเดวิด มอยส์, หลุยส์ ฟาน กัล, โชเซ่ มูรินโญ่, โอเล่ กุนนาร์ โซลชา และเอริก เทน ฮาก ซึ่งแต่ละคนต่างก็ล้มเหลวในการนำทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก
ตามรายงานของเดอะ ซัน อโมริมได้แจ้งให้กับนักเตะของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดทราบว่าบรรดาผู้จัดการทีมคนก่อนๆ ต่างก็อยู่ภายใต้เงาของเฟอร์กูสัน
ผู้จัดการทีมระดับตำนานของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดรายนี้พาสโมสรคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ 13 สมัย, เอฟเอ คัพ 5 สมัย และแชมเปี้ยนส์ลีก 2 สมัย
ผู้เล่นหลายคนต่างประทับใจในตัวอโมริม ซึ่งถูกนำไปเปรียบเทียบกับหนึ่งในผู้สืบทอดตำแหน่งของเขา แหล่งข่าวบอกกับเดอะซันว่า “เขาบอกกับพวกเขาว่าผู้จัดการทีมระดับสูงไม่สามารถเลียนแบบความสำเร็จของเซอร์อเล็กซ์ได้ เพราะพวกเขาใช้ชีวิตอยู่ภายใต้เงาของเขา แทนที่จะให้ทีมเล่นด้วยจิตวิญญาณของเขา”
“แม้กระทั่งก่อนการฝึกซ้อมครั้งแรกในวันจันทร์ นักเตะก็ประทับใจมาก
หลังจากนั้น พวกเขาก็ทึ่งกับพลังงาน แนวทาง และความมั่นใจของเขา
“มีบรรยากาศของมูรินโญ่อย่างชัดเจนในวิธีที่เขาพูดและความเชื่อมั่นในตัวเอง แต่สไตล์นั้นเป็นของเขาเอง
“นักเตะคิดว่าเขาเข้าถึงได้ง่ายและเขาจะเข้าใจพวกเขา บางคนเรียกเขาว่ามูรินโญ่ 2.0”
อโมริมได้รับการประกาศอย่างเป็นทางการให้เป็นหัวหน้าโค้ชของแมนฯ ยูไนเต็ดเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน แต่ได้เสร็จสิ้นระยะเวลาการแจ้งลาออกที่สปอร์ติ้งก่อนจะเริ่มงานอย่างเป็นทางการเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
เขาไม่มีผู้เล่นชุดใหญ่ครบชุดที่จะทำงานร่วมกันในการฝึกซ้อมครั้งแรกในวันจันทร์ เนื่องจากนักเตะชั้นนำหลายคนของเขาไปปฏิบัติหน้าที่ในทีมชาติ อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นอย่าง มาร์คัส แรชฟอร์ด, คอบบี้ ไมโน, คาเซมิโร่, ลุค ชอว์ และ เลนี่ โยโร่ ต่างก็เข้าร่วมการฝึกซ้อมในวันจันทร์
อาโมริมได้ให้ผู้เล่นของเขาฝึกซ้อมชุดหนึ่งและจัดแมตช์ฝึกซ้อม
โค้ชคนใหม่ของแมนฯ ยูไนเต็ดจะคุมทีมในเกมแรกในวันอาทิตย์นี้ เมื่อปีศาจแดงพบกับอิปสวิชที่พอร์ตแมน โร้ด
เขาจะคุมทีมแมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งรั้งอยู่ในอันดับที่ 13 ของพรีเมียร์ลีก โดยมี 15 คะแนนจาก 11 นัด
ความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้
การเข้ามาของ รูเบน อาโมริม ในฐานะผู้จัดการทีมคนใหม่ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับสโมสรที่กำลังเผชิญกับความยากลำบากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา หลังจากยุคของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดต้องเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีมถึงหกคน และยังไม่สามารถกลับมาคว้าแชมป์ลีกได้ นี่สะท้อนถึงแรงกดดันและความคาดหวังที่สูงลิบจากแฟนบอลและผู้บริหารสโมสร
อาโมริมเริ่มต้นด้วยแนวทางที่น่าสนใจ เขาได้ชี้ให้เห็นถึงปัญหาหลักที่ผู้จัดการทีมคนก่อนล้มเหลว นั่นคือการพยายาม "เลียนแบบ" เฟอร์กูสันมากเกินไป แทนที่จะนำพาทีมไปข้างหน้าด้วยแนวทางของตัวเอง คำพูดของเขาที่ว่า "ผู้จัดการทีมคนก่อนล้มเหลวเพราะอยู่ใต้เงาของเฟอร์กูสัน" นั้นสะท้อนถึงความเข้าใจในปัญหารากฐานของสโมสร
สิ่งที่น่าสนใจคือ อาโมริมได้รับการเปรียบเทียบกับโชเซ่ มูรินโญ่ ซึ่งเป็นผู้จัดการทีมคนหนึ่งที่เคยประสบความสำเร็จกับยูไนเต็ด แม้จะไม่ได้พาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก แต่ก็มีบุคลิกและความมั่นใจที่แฟนบอลจดจำได้ การที่ผู้เล่นบางคนเรียกอาโมริมว่า "มูรินโญ่ 2.0" แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในตัวเขา แต่สิ่งสำคัญคือ อาโมริมมีสไตล์ของตัวเอง ซึ่งอาจเป็นจุดเด่นที่ทำให้เขาสามารถนำทีมไปสู่ความสำเร็จได้
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอยู่ในอันดับที่ 13 ของตารางพรีเมียร์ลีก นี่ไม่ใช่ตำแหน่งที่แฟนบอลหรือสโมสรคาดหวัง การเปิดตัวของอาโมริมในเกมพบอิปสวิชจะเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญ และเขาจำเป็นต้องแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของตัวเองทันที ไม่เพียงแค่การชนะในเกม แต่ยังต้องคืนความเชื่อมั่นให้กับแฟนบอลและผู้เล่น
การสร้างทีมใหม่ไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะกับทีมที่เต็มไปด้วยนักเตะระดับโลกแต่ขาดความสมดุลในการเล่น อาโมริมต้องทำให้ผู้เล่นเชื่อมั่นในแนวทางของเขา พร้อมทั้งสร้างบรรยากาศที่เอื้ออำนวยต่อการพัฒนาและความสำเร็จในระยะยาว
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไม่ใช่แค่การแก้ปัญหาภายนอก แต่ยังรวมถึงการฟื้นฟูจิตวิญญาณของทีมที่เคยเป็นจุดเด่นในยุคเฟอร์กูสัน อาโมริมต้องหาวิธีทำให้ทีมเล่นด้วยความกระหายที่จะชนะและความสามัคคีในทีม ซึ่งจะเป็นกุญแจสำคัญในการพาทีมกลับสู่จุดสูงสุด
สรุปได้ว่า การแต่งตั้งรูเบน อาโมริม เป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจและมีความหวัง หากเขาสามารถสร้างทีมที่เล่นด้วยจิตวิญญาณใหม่และไม่ยึดติดกับอดีต ความสำเร็จก็อาจกลับคืนมาสู่โอลด์แทรฟฟอร์ดอีกครั้ง