เวย์น รูนีย์ คืออดีตตำนานแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดคนล่าสุดที่ถูกมองข้ามท่ามกลางการลดค่าใช้จ่ายของ เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เพิ่งได้รับแจ้งจาก เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ หนึ่งในเจ้าของร่วมของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ว่าสัญญาตำแหน่งทูตประจำสโมสรที่มีมูลค่า 2 ล้านปอนด์ต่อปีของเขาจะไม่ได้รับการต่ออายุหลังจบฤดูกาลนี้
เวย์น รูนี่ย์ อดีตกัปตันทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลายเป็นอีกหนึ่งตำนานของสโมสรที่ถูกมองข้ามภายใต้การลดค่าใช้จ่ายอย่างจริงจังของ เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์
รูนี่ย์ วัย 39 ปี เคยเล่นให้ยูไนเต็ดเป็นเวลา 13 ปีและประสบความสำเร็จมากมายในระดับสโมสร ปัจจุบันเขาเป็นผู้จัดการทีมของพลีมัธ อาร์ไกล์ ในลีกแชมเปี้ยนชิพ และเคยได้รับการคาดหมายว่าอาจจะได้เป็นทูตของสโมสรอย่างเป็นทางการ
อย่างไรก็ตาม แรตคลิฟฟ์ซึ่งซื้อหุ้น 27.7% ในสโมสรเมื่อต้นปีนี้ด้วยมูลค่า 1.3 พันล้านปอนด์ ได้ปฏิเสธข้อเสนอในการแต่งตั้งรูนี่ย์เป็นทูต โดยตามรายงานของ Daily Star การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ได้รับแจ้งจากแรตคลิฟฟ์ว่า สัญญาตำแหน่งทูตของเขาที่มีมูลค่า 2 ล้านปอนด์ต่อปีจะไม่ได้รับการต่ออายุหลังจบฤดูกาลนี้
แรตคลิฟฟ์ในฐานะประธานของกลุ่มบริษัท INEOS ไม่มีแผนจะเสนอรูนี่ย์ให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าว และได้ตัดสินใจที่จะไม่แต่งตั้งอดีตนักเตะของสโมสรเพิ่มในบทบาทนี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการลดค่าใช้จ่ายที่ถูกนำมาใช้หลายด้านนับตั้งแต่แรตคลิฟฟ์เข้ามาบริหาร
เวย์น รูนี่ย์ อดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษยังคงเป็นผู้ทำประตูสูงสุดตลอดกาลของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยยิงไปทั้งหมด 253 ประตูจากการลงเล่น 559 นัด รูนี่ย์ออกจากโอลด์ แทรฟฟอร์ดในปี 2017 เพื่อกลับไปอยู่กับทีมวัยเด็กอย่างเอฟเวอร์ตัน หลังจากเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพในปี 2021 เขาก็หันมารับงานคุมทีม โดยเคยทำหน้าที่เป็นผู้จัดการทีมที่ดาร์บี้ เคาน์ตี้และดีซี ยูไนเต็ด ปัจจุบันเขาดำรงตำแหน่งผู้จัดการทีมของพลีมัธ อาร์ไกล์
เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา รูนี่ย์กลับมาที่โอลด์ แทรฟฟอร์ดเพื่อร่วมแข่งขันการกุศลกับเซลติก โดยในเกมดังกล่าวเขายิงฟรีคิกและเกมจบด้วยผลเสมอ 1-1 หลังจบเกม รูนี่ย์กล่าวว่า "การได้กลับมาเล่นที่โอลด์ แทรฟฟอร์ดในเกมสำหรับตำนานทีมรู้สึกเป็นเกียรติและพิเศษมาก และยังเป็นการทำเพื่อการกุศลที่ดีอีกด้วย"
การตัดสินใจของเซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ในการลดตำแหน่งทูตของอดีตนักเตะ รวมถึงเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก โดย เอริค คันโตน่า ตำนานของทีมได้ออกมาวิพากษ์ผ่านอินสตาแกรมว่า "เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ควรจะสามารถทำอะไรก็ได้ที่สโมสรไปจนวันที่เขาเสียชีวิต การกระทำนี้มันขาดความเคารพและถือเป็นเรื่องอื้อฉาว เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันจะเป็นเจ้านายของผมตลอดไป และผมจะโยนพวกเขาทั้งหมดลงในถุงขยะ!"
แกรม ซูเนสส์ อดีตกัปตันทีมและผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล เป็นอีกหนึ่งเสียงวิจารณ์ที่ไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของ INEOS โดยเขาให้สัมภาษณ์กับ Daily Mail ว่า "นี่เป็นอีกหนึ่งผลกระทบจากการลดต้นทุนของ INEOS น่าอับอายจริง ๆ พวกเขาไม่มีความเคารพต่อสิ่งใดเลย เจ้าของทีมเหล่านี้ทำให้ตัวเองดูน่าละอาย"
ซูเนสส์แสดงความคิดเห็นต่อเงินเดือนที่เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันได้รับว่า "แม้ว่าเงินที่เขาได้รับอาจจะเป็นจำนวนไม่น้อย แต่การลดต้นทุนที่จุดนี้จริง ๆ แล้วเป็นสิ่งที่ควรทำหรือไม่? เงิน 2 ล้านปอนด์ต่อปีที่พวกเขาตัดออกจากการยกเลิกสัญญาของเฟอร์กี้ ถือเป็นเพียงเศษเสี้ยวเล็ก ๆ ของรายได้ที่สโมสรทำได้"
ซูเนสส์ยังกล่าวเสริมว่า "แมนฯ ยูไนเต็ดคือสโมสรที่มีรายได้มหาศาล แม้ในยามที่สโมสรตกต่ำ รายงานล่าสุดเผยว่ารายได้ประจำปีอยู่ที่ 661.8 ล้านปอนด์ การตัดเงิน 2 ล้านปอนด์ต่อปีนั้นเป็นเพียงเงินเล็กน้อย สำหรับผม การตัดสินใจนี้เป็นการพิสูจน์ว่าคนที่บริหารทีมในปัจจุบันไม่เข้าใจวิถีการทำงานของวงการฟุตบอล ไม่เข้าใจว่าทีมแมนฯ ยูไนเต็ดทำงานอย่างไร และไม่เข้าใจมุมมองของแฟนบอลที่มีต่อสโมสรแห่งนี้"