โยฮัน โมฆิก้า จุดเดือดแตกในเกมพ่ายบาร์เซโลน่า สร้างเหตุการณ์ประหลาดกลางสนาม
กองหลังมายอร์ก้า โยฮัน โมฆิก้า โขกหัวเพื่อนร่วมทีมตัวเองอย่างน่าประหลาดในเกมที่พ่ายต่อบาร์เซโลน่าในลาลีกา
มายอร์ก้ามีฤดูกาลที่น่าประทับใจ โดยทีมจากเกาะแห่งนี้รั้งอยู่ในอันดับที่ 6 และมีแต้มห่างจากโซนแชมเปี้ยนส์ลีกเพียง 2 แต้ม
อย่างไรก็ตาม เมื่อเย็นวันอังคารที่ผ่านมา บาร์เซโลน่าต้องเผชิญหน้ากับความจริง เมื่อยักษ์ใหญ่แห่งแคว้นกาตาลันขยายช่องว่างเหนือเรอัล มาดริดเป็น 4 แต้มที่จ่าฝูง หลังจากบุกไปชนะ 5-1 ในเกมเยือน
ราฟินญ่าที่กำลังอยู่ในฟอร์มดียิงได้ 2 ประตู ขณะที่เฟร์ราน ตอร์เรส, เฟรงกี้ เดอ ยอง และเปา วิคเตอร์ก็ยิงประตูได้เช่นกัน
สถานการณ์ของเจ้าบ้านดูดีขึ้นเมื่อเวดาต มูริกี ตีเสมอได้ในช่วงครึ่งแรก แต่หลังจากพักครึ่งเกม ทุกอย่างกลับแย่ลง
ในนาทีที่ 56 แบ็คซ้ายของมายอร์ก้า โมฆิก้า ยิงประตูใส่ลามีน ยามาล ในเขตโทษจนเสียจุดโทษ และแข้งโคลอมเบียก็โกรธจัด หลังจากได้รับลูกจุดโทษ โมฆิก้าก็เห็นหมอกสีแดงและเผชิญหน้ากับมานู มอร์ลานส์ เพื่อนร่วมทีมอย่างน่าทึ่ง ก่อนจะโขกหัวเขา
มอร์ลานส์ไม่แสดงปฏิกิริยาต่อการโขกหัว แต่กลับพูดบางอย่างตอบกลับเพื่อนร่วมทีม ก่อนที่โมฆิก้าจะต่อยแขนเขา
การกระทำของโมฆิก้าต่อเพื่อนร่วมทีมนั้นแปลกประหลาด ไม่มีแรงจูงใจที่ชัดเจน แม้ว่ามอร์ลานส์จะพูดเบาๆ พร้อมกับปิดปากในขณะนั้น
ช่วงเวลาแห่งความบ้าคลั่งของโมฆิก้าปิดฉากคืนอันเลวร้ายสำหรับนักเตะโคลอมเบียวัย 32 ปี ซึ่งทำผลงานได้ไม่ดีตลอดทั้งเกมกับยามาล
เขาทำผิดพลาดอย่างร้ายแรงในประตูแรก และถูกปราชัยโดยนักเตะวัย 17 ปีเป็นประจำ ขณะที่บาร์เซโลน่าบุกโจมตี
โมฆิก้าย้ายมาอยู่กับมายอร์ก้าในช่วงซัมเมอร์จากบียาร์เรอัล ซึ่งเป็นก้าวต่อไปของอาชีพค้าแข้งที่ทำให้เขาลงเล่นให้กับสโมสรในสเปนถึงเจ็ดแห่ง ขณะเดียวกันเขาก็ลงเล่นให้กับโคลอมเบียไปแล้ว 36 นัด ทีมของเขาจะกลับมาลงสนามอีกครั้งในวันศุกร์โดยจะเดินทางไปพบกับเซลต้า บีโก้ซึ่งปัจจุบันอยู่อันดับที่ 12 ในลีกสูงสุดของสเปน
ความคิดเห็น
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเกมนี้นับว่าเป็นตัวอย่างของการควบคุมอารมณ์ในสนามที่ผิดพลาดอย่างร้ายแรง โดยเฉพาะจากนักเตะมืออาชีพอย่างโยฮัน โมฆิก้า การกระทำที่แสดงถึงความก้าวร้าวต่อเพื่อนร่วมทีมเช่นนี้ไม่เพียงแต่ส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของตัวนักเตะเอง แต่ยังทำลายความสามัคคีของทีมในช่วงเวลาสำคัญ การแข่งขันกับบาร์เซโลน่าที่เป็นทีมชั้นนำของลีกต้องการความมุ่งมั่นและการเล่นที่มีวินัย แต่พฤติกรรมดังกล่าวกลับทำให้มายอร์ก้าสูญเสียโอกาสในการสู้กลับ
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงแรงกดดันที่นักเตะต้องเผชิญเมื่อเผชิญหน้ากับทีมใหญ่และต้องการสร้างผลงานในลีกระดับสูง โค้ชและผู้บริหารทีมควรใช้โอกาสนี้ในการเสริมสร้างการจัดการอารมณ์และความเป็นมืออาชีพให้กับนักเตะ เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นซ้ำอีกในอนาคต